การหายใจเวลาวิ่ง

เทคนิคการหายใจสำหรับนักวิ่ง

การหายใจเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามไปสำหรับนักวิ่ง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะคนเราเกิดมาก็ต้องหายใจ หยุดหายใจเมื่อไหร่ ชีวิตก็จบสิ้นสุดลง

แต่ถ้ามีใครสังเกตจะเห็นได้ว่าการหายใจในชีวิตประจำวัน ค่อนข้างสั้นและถี่ตื้นๆ เหมือนเอาลมเข้าไม่เต็มปอด เมื่อเริ่มวิ่งหรือออกกำลังกาย ร่างกายต้องการออกซิเจนมากขึ้น เราก็จำเป็นต้องนำออกซิเจนเข้าสู่ปอดให้เพียงพอกับความต้องการ ยิ่งออกกำลังกายในคุณภาพและปริมาณที่หนักขึ้น ร่างกายก็ต้องการออกซิเจนเพื่อไปเผาผลาญสร้างพลังงานมากขึ้นเช่นกัน

ปริมาณการนำเข้าออกซิเจนก็มาจากการหายใจทั้งสิ้น ในการหายใจมีกล้ามเนื้อ 2 ส่วนที่เกี่ยวข้องนั้นก็คือกล้ามเนื้อหน้าอก เป็นกล้ามเนื้อที่ช่วยในการยกกระดูกซี่โครง เป็นกล้ามเนื้อที่เราใช้ในการหายใจยามปกติ แต่ถ้าจะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหายใจมากขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ปอดรับ

ออกซิเจนให้มากขึ้น นั้นก็คือการเปิดพื้นที่เพื่อรองรับปอดที่จะขยายตัว ตามปริมาณของออกซิเจนที่เข้ามาให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

กล้ามเนื้อที่จะสามารถช่วยขยายพื้นที่ของทรวงอกเราได้ ก็คือกล้ามเนื้อกระบังลมที่จะช่วยดึงกระบังลมให้ลดต่ำลง ทำให้มีพื้นที่ของทรวงอกมากขึ้นและส่งผลในการเพิ่มประสิทธิภาพ ในการรับออกซิเจนของปอดเพื่อส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย

การฝึกหายใจด้วยท้อง

มีหลักการปฏิบัติเพื่อทำให้นักวิ่ง วิ่งได้นาน วิ่งได้เร็ว วิ่งอย่างมีความสุข

การหายใจเข้า หายใจเข้าเป็น 2 - 3 ช่วงต่อการหายใจเข้า 1 ครั้ง

การหายใจออก ปล่อยลมหายใจออกมาอย่างลื่นไหล

โดยการหายใจให้สอดคล้องกับจังหวะการวิ่ง ไม่ชงัก

ปากไม่ควรเม้ม ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ

ซึ่งจะช่วยในเรื่องปริมาณออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย

และคาร์บอนไดออกไซค์ออกจากร่างกายเพิ่มขึ้น

ออกซิเจนที่มากขึ้น จะทำให้ระบบการทำงานต่างๆของร่างกาย

มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างพลังงาน

มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างพลังงาน

ที่มา http://www.thaijoggingclub.or.th/index.php/head-article/new-runner/72-rookie-15